RSS

วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

กล้วยไม้สกุลแวนด้า

แวนด้าเป็นกล้วยไม้ประเภทโมโนโพเดี้ยล ไม่แตกกอ เจริญเติบโตไปทางยอด รากเป็นรากอากาศ ใบมีลักษณะกลม แบนหรือร่อง ใบซ้อนสลับกัน ช่อดอกจะออกด้านข้างของลำต้นสลับกับใบ ช่อดอกยาวและแข็ง กลีบนอกและกลีบในมีรูปร่างคล้ายคลึงกัน โคนกลีบแคบ และไปรวมกันที่โคนเส้าเกสร กลีบดอกในล่างด้านใต้มีเดือยแหลมยื่นออกมาเป็นส่วนท้ายของปากกระเป๋า ปากกระเป๋าของแวนด้าเป็นแบบธรรมดาแบนเป็นแผ่นหนาแข็ง และพุ่งออกด้านหน้า รูปลักษณะคล้ายช้อน หูกระเป๋าทั้งสองข้างแข็งและตั้งขึ้น สีดอกมีมากมายแตกต่างกันตามแต่ละชนิด
กล้วยไม้สกุลแวนด้าพบในป่าตามธรรมชาติประมาณ 40 ชนิด มีกระจายพันธุ์อยู่ในทวีปเอเซีย ตั้งแต่อินเดีย ศรีลังกา พม่า ไทย อินโดนีเซีย จนถึงฟิลิปปินส์ แวนด้าได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์ขึ้นอีกหลายพันธุ์ ปัจจุบันได้มีการจำแนกประเภทของแวนด้า โดยอาศัยรูปร่างลักษณะของใบออกเป็น 4 ประเภท คือ

แวนด้าใบกลม มีลักษณะของใบกลมยาวทรงกระบอก ต้นสูง ข้อห่าง สังเกตได้ที่ใบติดอยู่ห่างๆ กัน มีดอกช่อละหลายดอก แต่ดอกจะบานติดต้นอยู่คราวละ 2–3 ดอกเท่านั้น เมื่อดอกข้างบนบานเพิ่มขึ้น ดอกข้างล่างจะโรยไล่กันขึ้นไปเรื่อยๆ การปลูกใช้ดอกจึงนิยมปลิดดอกมากกว่าตัดดอกทั้งช่อ

แวนด้าใบแบน ลักษณะใบแผ่แบนออก ถ้าตัดมาดูหน้าตัดจะเป็นรูปตัววี มีข้อถี่ปล้องสั้น ใบซ้อนชิดกัน ปลายใบโค้งลงและจักเป็นแฉก

แวนด้าใบร่อง มีรูปทรงของใบและลำต้นคล้ายใบแบนมากกว่าใบกลม แวนด้าประเภทนี้ไม่พบในป่าธรรมชาติ การนำมาปลูกเลี้ยงเป็นพันธุ์ลูกผสมทั้งสิ้น โดยนำแวนด้าใบกลมมาผสมกับแวนด้าใบแบน

แวนด้าก้างปลา มีรูปทรงของใบและลำต้น กิ่งใบกลมกับใบแบน พบตามป่าธรรมชาติน้อยมาก เพราะกล้วยไม้พันธุ์นี้เป็นหมันทั้งสิ้น

ในบรรดาแวนด้าทั้ง 4 ประเภทนี้ แวนด้าใบกลมเป็นแวนด้าที่เลี้ยงง่ายที่สุด สามารถปลูกลงแปลงกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องมีโรงเรือน แต่ดอกมักจะบานไม่ทน ส่วนที่เลี้ยงยากที่สุดคือ แวนด้าใบแบน มีหลายพันธุ์ ทั้งดอกใหญ่และดอกเล็ก แต่ที่ได้รับความนิยมได้แก่ ฟ้ามุ่ย เพราะดอกใหญ่ สีสวย การเลี้ยงแวนด้าใบแบนจำเป็นต้องมีโรงเรือนเพราะต้องการแสงที่พอเหมาะ สำหรับแวนด้าใบร่องเป็นลูกผสมระหว่างใบกลมและใบแบน ถูกผสมขึ้นเพื่อให้ปลูกเลี้ยงง่ายขึ้น แต่ดอกมักจะสีไม่สวยและปากหักง่าย


เทคนิคเลี้ยงกล้วยไม้สกุลแวนด้า


เกษตรกรที่คิดจะเลี้ยงกล้วยไม้ในเชิงพาณิชย์มักจะตั้งโจทย์เริ่มต้นว่าปลูกเลี้ยงยากทำให้เกิดความท้อเสียก่อน แต่ในความเป็นจริงแล้วกล้วยไม้จัดเป็นไม้ดอกที่ปลูกเลี้ยงง่ายเพียงแต่ “มีน้ำใจให้เขาเท่านั้นเอง” หรืออาจจะกล่าวง่าย ๆ คือเริ่มต้นจากใจรักแล้วค่อย ๆ เรียนรู้ไป ความหมายของน้ำใจก็คือมีการเอาใจใส่ให้ปุ๋ยให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ

อย่างกรณีของกล้วยไม้ฟ้ามุ่ยถ้าเป็นเกษตรกรทั่วไปจะเลี้ยงและให้ดอกเพียงปีละครั้งเท่านั้น แต่ที่สวนกันติกานต์ของคุณเกรียงศักดิ์ กันติกานต์ เกษตรกรจังหวัดพิจิตร มีการบำรุงและดูแลรักษาอย่างดีจะให้ดอกได้ถึงปีละ 3 ครั้ง ที่สวนกล้วยไม้กันติกานต์ส่วนใหญ่จะเลี้ยงกล้วยไม้ลูกผสม คุณเกรียงศักดิ์บอกว่าลักษณะของกล้วยไม้แวนด้าลูกผสมที่ดีจะต้องมีลักษณะดัง นี้ “ก้านช่อจะต้องมีขนาดใหญ่และยาว กลีบดอกจะต้องแข็ง บานทนอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป”

สำหรับการปลูกกล้วยไม้แวนด้าในเชิงพาณิชย์นั้น คุณเกรียงศักดิ์บอกว่า ชนิดของ “แสลน” หรือตาข่ายพรางแสง มีความสำคัญมาก ในแต่ละอายุของกล้วยไม้สกุลแวนด้าจะใช้แสลนที่แตกต่างกันอย่างเช่น ไม้เล็กตั้งแต่ออกจากขวดเลี้ยงจนมีอายุต้นได้ 1 ปี จะใช้แสลนสีดำพรางแสง 70% รับแสงแดดเพียง 30% สำหรับไม้ใหญ่ของกล้วยไม้สกุลแวนด้าจะใช้แสลน 60% แต่ถ้าเป็นกล้วยไม้ไทยและกล้วยไม้สกุลแคทลียาจะใช้ตาข่ายพรางแสง 50%

แต่เดิมที่สวนกันติกานต์จะใช้น้ำประปา แต่ต้นทุนสูงมาก ในแต่ละเดือนเฉพาะต้นทุนค่าน้ำประปาเพื่อให้กับต้นกล้วยไม้ในพื้นที่เพียง 2 ไร่เศษ ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน โดยเฉพาะถ้าปลูกแวนด้าและม็อคคาร่าเพื่อตัดดอกขายจะใช้น้ำมาก ปัจจุบันจึงเปลี่ยนมาใช้น้ำจากแม่น้ำน่าน หลักการสำคัญของการให้น้ำของสวนกันติกานต์คือจะให้เช้า-เย็น แต่ถ้าอากาศครึ้ม ๆจะให้เพียงรอบเช้ารอบเดียว ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาวจะให้ เช้า-เย็น ให้น้ำแบบสปริงเกอร์ ให้นาน 3 นาทีต่อ 1 รอบ

การให้ปุ๋ยกับกล้วยไม้สกุลแวนด้าของสวนกันติกานต์นั้นจะเน้นการฉีดพ่นปุ๋ยเกล็ดทางใบโดยเลือกสูตรปุ๋ยที่ฉีดพ่นตามหลักการทั่วไปคือ ถ้าเร่งการเจริญ เติบโตจะเลือกสูตรที่มีไนโตรเจนสูง หรือสูตรเสมอ แต่ถ้าเร่งดอกจะเน้น ฟอสฟอรัสและถ้าเน้นสีของดอกจะเน้นโพแทสเซียมอย่างนี้เป็นต้น แต่สูตรปุ๋ยทางใบที่สวนกันติกานต์ใช้ฉีดพ่นในแต่ละครั้งจะต้องมีอัตรารวมกันของธาตุหลักไม่ต่ำกว่า 60 เช่น ฉีดพ่นปุ๋ยเกล็ดสูตร 21-21-21 มีธาตุไนโตรเจน, ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมรวมกันเท่ากับ 63.



อ้างอิง
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=568&contentID=32924
http://www.panmai.com/Orchid/V/v.shtml
http://images.google.co.th/imglanding?q=%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2&imgurl=http://picdb.thaimisc.com/s/sanguanmaejo25/585-114.jpg&imgrefurl=http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php%3Fuser%3Dsanguanmaejo25%26topic%3D585%26page%3D12&usg=__CZd_ixucchgXC6SilL-pGxXPJGQ=&h=389&w=340&sz=95&hl=th&sig2=_JR7inILEItk8soGcwHKKg&um=1&itbs=1&tbnid=NmqjEszbqo7yLM:&tbnh=123&tbnw=108&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%26um%3D1%26hl%3Dth%26newwindow%3D1%26sa%3DX%26tbs%3Disch:1&ei=aeB_S_KGCIXCrAeJ__HLBA&um=1&newwindow=1&sa=X&tbs=isch:1&start=0#tbnid=Ss8mCJw59kMHvM&start=28

0 ความคิดเห็น: